ไม่มีสาวกแบรนด์เนมคนไหนไม่รู้จัก Fendi Baguette เพราะกระเป๋ารุ่นนี้ถือเป็นตำนาน It bag ใบแรกที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์แฟชั่นว่าทำให้เกิดการรอต่อคิวหรือ Waiting List ขึ้น โด่งดังสุดขีดจากซีรีส์ยอดฮิต Sex and the City ในฉากที่ Carrie Bradshaw ตอบโจรที่กำลังฉกชิงกระเป๋าของเธอ
“Give me your bag!”
“uh.. It’s a Bag-uette.”
Fendi Baguette ถือกำเนิดในปี 1997 ด้วยฝีมือของ Silvia Venturini Fendi ทายาทรุ่นที่ 3 แห่งตระกูล Fendi ผู้ออกแบบกระเป๋าหูหิ้วขนาดกระทัดรัด ที่สามารถคล้องใต้วงแขนได้พอดิบพอดีเช่นเดียวกับเวลาที่สาวๆ ปารีเซียงพกพาขนมปังบาแก็ตต์ไปรอบเมือง ทันทีที่วางขาย Fendi Baguette กลายเป็นสินค้า best-seller และ sold out ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้คำว่าบาแก็ตต์ไม่ได้หมายความถึงขนมปังฝรั่งเศสอีกต่อไป แต่กลายเป็นตำนาน It Bag “กระเป๋าที่ต้องมี” ใบแรกของโลก


ลำพังแค่ปีแรกที่วางจำหน่าย Baguette ก็ทะลุสถิติขายไปกว่าหนึ่งแสนใบ และจนถึงปัจจุบันแม้จะผ่านเวลามานานกว่า 20 ปี แต่ความนิยมของกระเป๋ารุ่นนี้ก็ไม่เคยเสื่อมคลายแถมยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้นปี 2019 Fendi ได้หยิบ Baguette กลับมาปัดฝุ่นและใส่เรื่องราวใหม่ๆ อีกครั้งภายใต้แคมเปญ #BaguetteFriendsForever


นอกจากลูกเล่นใหม่ๆ ที่ถูกออกแบบและถ่ายทอดผ่านตัวกระเป๋าแล้ว คราวนี้ Fendi กลับมาพร้อมหนังสั้นถึง 10 ตอน ถ่ายทำในหลายประเทศ แถมยังเอาใจลูกค้าชาวเอเชียอย่างเห็นได้ชัด ด้วยสัญชาติของนักแสดง ภาษาที่ใช้ และบรรยากาศของเมืองที่ถ่ายทำ ที่สำคัญ Fendi ยังคงได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากซุปเปอร์สตาร์เจ้าของประโยค “It’s a Baguette.” สุดคลาสสิค Sarah Jessica Parker ที่มาเซอร์ไพรส์ในคลิปที่ 3 : The one and only Baguette


สามารถรับชมคลิป #BaguetteFriendsForever ทั้ง 10 ตอนได้ตามนี้
ความสำเร็จและชื่อเสียงของ Fendi ในวันนี้คงมิใช่เรื่องบังเอิญ หากลองย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น Fendi ก่อตั้งขึ้น ณ กรุงโรม ประเทศอิตาลีตั้งแต่ปี 1925 จึงเป็นเวลาเกือบร้อยปีที่แบรนด์ได้สั่งสมประสบการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เครื่องหนังและเฟอร์ ก่อนหน้านี้งานออกแบบของ Fendi อยู่ภายใต้การดูแลของ Karl Lagerfeld (1933-2019) ผู้เข้ามามีบทบาทและขับเคลื่อนแบรนด์ตั้งแต่ปี 1965 โดยทำงานร่วมกันกับทายาทในตระกูล รวมถึง Silvia Venturini Fendi ที่ ณ ปัจจุบันเธอดำรงตำแหน่ง Creative Director
สำหรับซิลเวียนั้น กรุงโรมและประเทศอิตาลีคือบ้านของ Fendi ซึ่งเป็นทั้งที่ตั้งของสำนักงานใหญ่และเป็นแรงบันดาลใจหลักของแบรนด์ ตั้งแต่ปี 2013 เป็นต้นมา Fendi ได้บริจาคเงินจำนวนมากเพื่อปรับปรุงสถานที่สำคัญต่างๆ ในกรุงโรม รวมถึงการบูรณะซ่อมแซมน้ำพุ Trevi อันโด่งดัง หมุดหมายสำคัญของการท่องเที่ยว เมื่อแล้วเสร็จ Fendi จึงใช้พื้นที่บริเวณนี้จัดแฟชั่นโชว์ในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 90 ปีของแบรนด์เสียเลย


นอกจากบ้านเกิดในกรุงโรมแล้ว Fendi ได้ขยายอาณาเขตเพื่อตอกย้ำคุณค่าของคำว่า ‘Made in Italy’ ไปยังเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ซิลเวียได้ตามหาและคัดเลือกช่างฝีมือจำนวน 20 คนจากทั้งหมด 20 แคว้นมาทำงานร่วมกันในโครงการ ‘Hand in Hand’ ซึ่งเป็นการนำกระเป๋า Fendi Baguette สุดโด่งดังมาให้ช่างฝีมือแต่ละพื้นถิ่นได้ตีความใหม่และมีอิสระในการผลิตผลงานตามความถนัดของตน
โดยซิลเวียกล่าวว่า ‘Hand in Hand’ คือโครงการที่ว่าด้วยคุณค่าและความสามารถส่วนบุคคล ประสบการณ์ที่สั่งสม มิใช่เพียงช่างฝีมือของ Fendi เท่านั้น แต่คือพวกเราชาวอิตาเลียนทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้เธอเลือกที่จะให้ความสำคัญกับตัวบุคคลที่อยู่เบื้องหลังผลิตภัณฑ์ชั้นสูงทั้งหลาย ว่ามีที่มาอย่างไร และใครคือผู้สร้างสรรค์ผลงานเหล่านั้น
“Sometimes fashion is always about the designer, but I think it’s time also to share the community that there is behind.”
– Silvia Venturini Fendi –
กระเป๋าใบแรกของโครงการที่ออกสู่สาธารณชนมาจากเมือง Peroni ในแคว้น Tuscany ทางภาคกลางของประเทศ ที่ขึ้นชื่อเรื่องเทคนิคการขึ้นรูปเครื่องหนัง ความพิเศษอยู่ที่การใช้หนังฟอกธรรมชาติทั้งผืนมาประกอบขึ้นเป็นกระเป๋าทั้งใบไปจนถึงตราสัญลักษณ์แบรนด์ โดยแทบไม่ปรากฏรอยฝีเข็ม ซึ่งซิลเวียได้นำเสนอกระเป๋าใบนี้ผ่านรันเวย์ Fall/Winter 2020-2021 ที่ผ่านมา
จากนั้นกระเป๋าใบอื่นๆ ก็ได้รับการเผยแพร่ผ่านช่องทาง social media ของแบรนด์ จนถึงปัจจุบันมีจำนวน 11 ใบจาก 11 แคว้นของประเทศอิตาลี โดยแต่ละแบบจะมีการผลิตจำนวนจำกัดเพียง 20 ใบเท่านั้น และความพิเศษอีกอย่างอยู่ที่การเขียนชื่อของช่างฝีมือท่านนั้นๆ ไว้ที่กระเป๋าด้วย เหมือนที่ซิลเวียได้กล่าวว่า สำหรับเธอและ Fendi แล้ว ช่างฝีมือเหล่านี้มีความสามารถเป็นที่ยอมรับเทียบเท่าศิลปินคนหนึ่งเลยทีเดียว
“To me they are more than artisans, they are artists.”
– Silvia Venturini Fendi –



จากปรากฏการณ์ความนิยมของ Fendi Baguette จนกลายมาเป็น It Bag ใบแรกของโลกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน Fendi ได้ทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนทั้งวงการแฟชั่น ตลอดจนสนับสนุนผลงานศิลปะและรักษาคุณค่าของงานฝีมืออิตาเลียนไว้ให้คงอยู่ ด้วยความสามารถในการผสมผสานและหาค่าตรงกลางระหว่างโลกทุนนิยมและความพึงพอใจส่วนบุคคล เกิดเป็นความ Luxury ที่จับต้องได้ซึ่งนำประโยชน์มาสู่ทุกฝ่ายในประเทศ
เพราะฉะนั้นหากจะเปรียบตระกูล Fendi จากกรุงโรมในยุคปัจจุบัน กับตระกูล Medici แห่งเมืองฟลอเรนซ์ในอดีต ก็คงจะไม่เป็นการกล่าวที่เกินจริงไปนัก ในแง่ของการอุปถัมภ์ค้ำจุนศิลปินให้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นหมุดหมายสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ศิลปะ และการสร้างชื่อเสียงและความเชื่อมั่นให้กับสินค้าที่ผลิตและตีตราด้วยคำว่า “Made in Italy”
sources:
- https://www.lvmh.com/news-documents/news/fendi-celebrates-italys-artisanal-craftsmanship-with-ambitious-hand-in-hand-project/
- https://www.theglassmagazine.hk/index.php/2020/10/21/glass-showcases-fendis-baguette-project-titled-hand-in-hand/
- https://www.harpersbazaar.co.th/FASHION/NEWS/fendi-baquette-hand-in-hand-project
- https://www.vogue.fr/fashion/article/fendi-baguette-bag-hand-in-hand-limited-edition-20-designs
- https://en.vogue.me/fashion/news/fendi-baguette-hand-in-hand/
- https://www.bagaddictsanonymous.com/bags/history-classic-fendi-baguette/#:~:text=Designed%20by%20Silvia%20Venturini%20Fendi,1997%2C%20the%20Baguette%20was%20born.
- https://thestandard.co/itbag01/
- https://praew.com/fashion/224883.html
- https://www.theweek.co.uk/92079/fendi-why-the-fashion-house-is-investing-in-romes-patrimony