The final part of Mi mancherai, Milano series has come to the city centre, where all famous tourist attractions and the-must places to go are gathering around. It was always the first area to go when people visit Milan for the first place, including me. I couldn’t forget my first feeling when I was in front of Duomo di Milano. It was speechless, though throughout the year, I’ve been visited there quite a lot! Still it was forever the memorable place to me.

 

และย่านสุดท้ายที่จะพูดถึงนั้น จะเป็นที่ใดไปไม่ได้นอกเสียจากย่านใจกลางเมืองมิลาน ที่ตั้งของสถานที่สำคัญทางศาสนาและสัญลักษณ์ของเมืองอย่าง ดูโอโม่ ดิ มิลาโน่ หรืออาสนวิหารประจำเมืองนี้ เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางเมืองมิลาน รายล้อมไปด้วยสถานที่สำคัญอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งห้างสรรพสินค้าแห่งแรกของเมือง โรงละครประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมให้มิลานได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นอีกหนึ่งมหานครทางแฟชั่น สำหรับโพสนี้อาจจะไม่ได้มีสถานที่สำคัญอย่างที่ในไกด์บุคมี แต่ที่เหล่านี้คือส่วนสำคัญในความทรงจำของเราต่อชีวิตหนึ่งปีกว่าๆ ที่ผ่านมาในเมืองมิลาน

 

 

Frida

Mi mancherai, Milano 026
Via Pollaiuolo 3, 20159 Milano

A place where there are a restaurant and a fashion store in the same area. Frida is famous for its second-hand clothing and accessories shop, where there would be new products launched every week. The restaurant is served in aperitivo style, buy one drink and eat all you can do!

 

ร้านอาหารสไตล์ aperitivo ที่สั่งหนึ่งดริ้งแล้วจะทานเท่าไรก็ได้ไม่จำกัด ซึ่งเป็นที่นิยมมากในมิลานอย่างที่เคยได้กล่าวไปแล้ว นอกจากนี้ในบริเวณเดียวกัน ฟรีด้ายังเป็นสถานที่ตั้งของร้านขายเสื้อผ้าและเครื่องประดับมือสอง ที่พิเศษตรงมีของมาลงใหม่ทุกอาทิตย์ ใครว่าของมือสองจะมีแต่ของเก่าๆ สภาพแย่ๆ เท่านั้น ที่นี่มิลาน เมืองแห่งแฟชั่นซะอย่าง แต่ละไอเท็มที่เลือกมามีทั้งชิ้นหายากในราคาไม่แพง ถ้าถูกใจควรจะตัดสินใจซื้อทันที เพราะไม่มีอะไรการันตีว่าพลาดแล้วจะเจอแบบเดียวกันนี้อีกเมื่อไหร่ เป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่นและเหล่านักเรียนไทยอย่างพวกเรามากทีเดียว

 

 

Parco Sempione

Mi mancherai, Milano 027
Parco Sempione, 20149 Milano

Parco Sempione or Sempione Park is the biggest public park located in the centre of Milan, where both tourists and Milanese people come to spend their family time here. A part of the park is connected to Castello Sforzesco, which you can walk directly to Duomo di Milano from there. It is the route that most tourists take, besides, the weather in Spring is perfect to be out door.

 

อีกหนึ่งสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ สวนสาธารณะกลางเมืองแห่งนี้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวและชาวเมืองมิลานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ปาร์กโก้ เซมปิโอเน่ กินพื้นที่ใจกลางเมือง โดยมีสถานีรถไฟ Cadorna อันเป็นอีกหนึ่งสถานีที่สามารถใช้เดินทางออกนอกเมืองได้ รวมทั้งสถานีรถไฟใต้ดินอีกหลายสายอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังมีสถานที่แลนมาร์คทางประวัติศาสตร์อย่างปราสาท สฟอร์เชสโค่ ที่สามารถเดินเดินต่อไปยังดูโอโม่ได้อีกต่างหาก คงไม่ต้องบรรยายถึงชื่อเสียงของสวนสาธารณะแห่งนี้ให้เสียเวลา เพราะเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่รู้จักกันดี นอกจากนี้ในบางครั้งบนพื้นที่กว้างใหญ่ยังมีการจัดกิจกรรมหรืองานเทศกาลให้ผู้คนได้เข้าร่วมอีกด้วย เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย และในทุกโอกาสอย่างแท้จริง

 

 

Binario Unidi Café

Mi mancherai, Milano 028
Via Pietro Paleocapa 1, 20121 Milano

Cadorna is another important station, there are both metro and railway at the same place. Walk out a little bit from the station, that is where this well-decorated café stand. Bionari Undici covers two floors of the building, owns plenty of spaces for customers. I found the place full of conversation and relationship. While there are teenagers talking and giggling upstairs on the 2nd floor, elder couple downstairs were enjoying their afternoon coffee. It was one fine day for spending time alone in this city.

 

ร้านกาแฟเปิดใหม่ริมหัวมุมถนน ใกล้กันกับสถานทีรถไฟและรถใต้ดิน Cadorna (อ่านว่า คาร์ดอน่า) ซึ่งนับว่าสถานีสำคัญที่มีรถใต้ดินตัดผ่านหลายสาย อีกทั้งรถไฟจากนอกเมืองบางสายยังเข้ามาจอดที่นี่อีกด้วย ร้านกาแฟ Bionari Undici (อ่านว่า บิโอนารี่ อุนดิชี่) นั้นเปิดอยู่หน้าสถานี กินพื้นที่สองชั้นของอาคารพาณิชย์ กลายเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับลูกค้าทุกเพศทุกวัย

 

 

Luini

Mi mancherai, Milano 029
Via Santa Radegonda 16, 20121 Milano

Luini is a very famous bakery that there are always many people waiting in front of it. It is also a tourist spot for Thai people. Once I met a Thai couple and suggested them some of the signature breads. The woman looked familiar to me, but somehow I couldn’t remember where I recognised her from. Then days later, one of my best friends who moved to the US asked me about that woman and she turns out to be her sister! What a small world!

 

ร้านขนมปังยอดฮิตติดดูโอโม่ ไม่มีใครไม่รู้จัก Luini (ลุยนี่) เพราะถึงจะแม้ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงมาก่อน แต่ถ้ามาเดินเล่นแถวนี้แล้วเป็นต้องสะดุดกับแถวยาวที่เข้าคิวอยู่หน้าร้านอย่างแน่นอน เมนูขนมปังที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย แค่แบบเฉพาะของร้านก็มีหลายไส้ให้เลือกสรร บางครั้งถึงกับสั่งผิดสั่งถูก กลายเป็นได้ลองรสชาติใหม่ๆ ไปแทน ครั้งหนึ่งเคยมีประสบการณ์การมาซื้อขนมปังและเจอคู่รักคนไทย พูดคุยกันนิดหน่อย พร้อมกับแนะนำชิ้นที่คิดว่าน่าจะชอบให้ สองสามวันผ่านไปมีเพื่อนสนิทที่ย้ายไปอยู่อเมริกาทักมาว่าผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาวของเพื่อน ตกใจในความโลกกลมจริงๆ ขนาดอยู่กันคนละซีกโลกยังมาบังเอิญเจอกันได้

 

 

Duomo di Milano

Mi mancherai, Milano 030
Piazza del Duomo, 20121 Milano

The last place in the last day of 30 last days in Milan, Duomo di Milano is the central church located in the centre of Milan. Around here was surrounded by fashion and luxury stores in different level, from high end to commercial market. There was crowded all the time, also Duomo is the exchange metro line station between M1 and M3, to go somewhere further in Milan. The city itself represents an important exchange position in terms of economy and industry for Italy. I was once told by Italian that, for them, Milan doesn’t give much feeling of Italy, because it was mixed by variety of culture. People come and go, work and stay, live and leave, for many reasons, Milan becomes an opened door, that welcomes to all people, and at the same time, help them growing to another level.

That was what exactly how I feel about Milan, I have been here for more than a year and what I knew is I have grown so much, not by physical but something changed inside of me. I knew I will miss Milan deeply when I have to leave, I will miss this time, the time that I have been so much myself.

 

และแล้วก็มาถึงสถานที่สุดท้ายใน 30 วันสุดท้ายในมิลาน ที่จะเป็นที่อื่นไปไม่ได้นอกเสียจาก อาสนวิหารประจำเมือง หรือที่เรียกติดปากกันว่าดูโอโม่ สัญลักษณ์ของมิลาน โบสถ์ที่ไม่เคยซ่อมเสร็จ เคยมีคนอิตาลีแซวไว้อย่างน่ารักว่า ทำตัวขี้เกียจเป็นดูโอโม่เมืองมิลานเลยนะ เพราะที่นี่อยู่ในระหว่างการซ่อมแซมตลอด และซ่อมไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็น ทำให้ไม่เคยมีใครเห็นดูโอโม่ตอนเสร็จสมบูรณ์แล้วสักที แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นแลนมาร์คอันดับหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวและผู้คนที่แวะเวียนมายังเมืองมิลานเสมอ และด้วยตั้งอยู่ ณ ใจกลางเมืองอย่างแท้จริง ทำให้ดูโอโม่เป็นจุดศูนย์รวมของรถใต้ดินหลายสาย ตัดพาดผ่านกันไปมา พาให้ผู้คนทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจได้เข้ามาเห็นความวิจิตรงดงามของมหาวิหารหินอ่อนแห่งนี้ ความจริงแล้วมิลานนั้นถือว่าเป็นเมืองใหม่ โดยในปัจจุบันมีความสำคัญในฐานะเป็นจุดศูนย์กลางของเศรษฐกิจและแฟชั่น อย่างที่คนอิตาลีเองได้เคยกล่าวไว้ว่า มิลานนั้นไม่ได้ให้ความรู้สึกถึงความเป็นอิตาลีมากนัก เพราะเต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้คน วัฒนธรรม และการใช้ชีวิต แต่ก็ทำให้เมืองมีสีสันและไม่หยุดนิ่งอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันมิลานก็ทำหน้าที่เสมือนประตูบานใหญ่ที่ต้อนรับความหลากหลายและพร้อมมอบโอกาสให้กับคนที่เข้ามาอาศัยอยู่เสมอ

และนั่นคือสิ่งที่เรารู้สึก หากมีคนถามเราว่ามิลานเป็นอย่างไร น่าอยู่ไหม ไม่ปลอดภัยจริงหรือเปล่า คำตอบของเราคงจะบอกว่า คนเรามีภาพในหัวไม่เหมือนกัน และมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันมา มิลานของเรากับมิลานของคุณเลยอาจจะไม่ใช่ที่เดียวกันก็ได้ บางอย่างที่เราเจอคุณอาจจะไม่เคยรู้ และบางที่ที่คุณไปอยู่เราอาจจะไม่เคยเห็น แต่นั่นไม่ได้เป็นตัวชี้ว่ามิลาน ดี หรือ ไม่ดี คำแนะนำของเราก็คือต้องลองให้รู้ด้วยตัวเอง เพราะขนาดเราที่ในอดีตเคยประกาศกร้าวว่าฉันมาทำอะไรที่นี่ เราในวันนี้ยังนึกคิดถึงชีวิตลำบากๆ ที่มิลานอยู่เลย คิดถึงตัวเองในวันนั้น คิดถึงอีกหนึ่งช่วงเวลาที่ดีสุดในชีวิต คิดถึงมิลานชะมัด

 

 

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเกิดความรู้สึกอยากไปเยือนมิลานให้ได้สักครั้ง เพราะขณะที่นั่งเขียนอยู่นี่ ก็คิดถึงมิลานจับใจ จนอยากจะกลับไปลองใช้ชีวิตดูอีกสักที!