วันสุดท้ายในเมืองมอสโก มาต่อกันที่อารามชี Novodevichy ที่เมื่อวานหลงเชื่อ Google ว่าที่นี่ปิดหนึ่งทุ่ม เลยแวะมาแล้วหนึ่งรอบ แต่ก็ต้องอกหักเพราะปิดไปแล้วตั้งแต่ห้าโมงเย็น ที่รีบอยากมาตั้งแต่เมื่อวานเพราะวันนี้ตามพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก ซึ่งจากประสบการณ์ก็จะค่อนข้างเชื่อถือพยากรณ์อากาศทางฝั่งยุโรปมากอยู่ และก็จึงอย่างว่า ฝนเทลงมาแต่เช้าทำให้เราต้องเข้ามาหาที่หลบฝนกันในห้องนิทรรศการ
Pentax MX with Fuji color 100
ที่นี่มีการจัดแสดงเรื่องราวทางศาสนาและภาพ Icon ตอนแรกไม่เข้าใจว่าภาพ Icon คืออะไร แต่ไปที่โบสถ์ไหนๆ ก็มักจะพูดถึงเสมอ จนมารู้ว่าภาพ Icon คือภาพสำคัญทางศาสนา ไม่ว่าจะเป็นภาพพระแม่มารีอุ้มบุตร หรือภาพที่บอกเล่าเหตุการณ์สำคัญต่างๆ ซึ่งผู้ที่นับถือนิกายออร์โธด็อกซ์นั้นให้ความเคารพเป็นอย่างมาก ในห้องนิทรรศการของอารามชีแห่งนี้จึงเต็มไปด้วยภาพที่ว่าในลายเส้นต่างๆ ของแต่ละศิลปิน ซึ่งไม่เพียงแต่จำกัดอยู่บนภาพจิตรกรรมเท่านั้น บางครั้งยังมีการตกแต่งประดับ และใช้เทคนิคการทำเครื่องประดับเข้ามาร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับศรัทธาและความสามารถของศิลปินท่านนั้นๆ
Pentax MX with Fuji color 100
อารามชีแห่งนี้มีเรื่องเล่าที่ว่า ในสมัยก่อนการขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 มหาราชเกิดการแย่งชิงราชสมบัติกันระหว่างพี่น้อง โดยในตอนนั้นมีการขึ้นครองราชย์พร้อมกันถึง 3 พระองค์ ได้แก่ เจ้าหญิงโซเฟีย (Sofia Alexeyevna) ซาร์อีวานที่ 5 (Ivan V Alexeyevich) และพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 (Peter I Alexeyevich, the Great) โดยที่เจ้าหญิงโซเฟียและซาร์อีวานที่ 5 กำอำนาจสูงสุดอยู่ในมอสโก และเนรเทศพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาแต่มีสิทธิ์ในราชบัลลังก์เท่าๆ กันออกไปยังนอกเมือง จนกระทั่งพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 ล่วงรู้ถึงแผนการลอบฆ่าพระองค์ จึงได้ส่งกองกำลังไปจัดการเจ้าหญิงโซเฟียและซาร์อีวานที่ 5 ก่อนจะได้ขึ้นครองราชย์แต่เพียงผู้เดียว เจ้าหญิงโซเฟียได้ถูกปลดออกจากอำนาจ และถูกส่งมาคุมขังอยู่ที่อารามชี Novodevichy แห่งนี้นี่เอง
ข้อมูลจากหนังสือ The Rulers of Russia ที่ซื้อมาอ่านด้วยความทนสงสัยต่อไปไม่ไหว อยากจะรู้เรื่องราชวงศ์ของประเทศรัสเซีย เพราะยิ่งรู้ก็ยิ่งสนุกเมื่อได้ไปเจอสถานที่ที่มีเนื้อหาเชื่อมโยงกัน ทำให้เข้าใจสถานที่เหล่านั้นมากขึ้น รู้สึกเลยว่าคนที่รู้ประวัติศาสตร์เยอะๆ นี่น่าอิจฉานะ เวลาเค้าไปยังสถานที่ต่างๆ ไปเจอของเก่า หรือไปชมพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมของมีค่าในอดีตเอาไว้ เค้าจะเข้าใจทันทีว่าคุณค่าของมันคืออะไร ต่างกับคนที่ไม่รู้อะไรเลย ไปดูด้วยความไม่รู้ ก็จะไม่เข้าใจถึงความสำคัญ ไม่ประทับใจ หรือบางทีก็ลืมไปด้วยซ้ำว่าเคยได้ไปเห็นของจริงมาแล้ว
Pentax MX with Fuji color 100
ออกจากอารามชีแล้วก็ไปตระเวณเที่ยวภายในรถไฟใต้ดิน เพราะมอสโกถือเป็นเมืองที่มีรถไฟใต้ดินสวยที่สุดในโลก โดยสถานีสวยๆ ส่วนมากนั้นอยู่ตามสายสีน้ำตาล เป็นสายหลักที่วิ่งรอบเป็นวงกลม สิ่งมหัศจรรย์จากการอยู่มอสโกมา 3-4 วัน ทำให้เราเริ่มอ่านตัวอักษรรัสเซียได้บ้างแล้ว! พออ่านออกแล้วก็สนุกดี และเริ่มคุ้นชินกับประเทศนี้มากยิ่งขึ้น และยิ่งทำให้การมาเที่ยวรัสเซียสนุกมากขึ้นด้วย :)
รูปที่ถ่ายในรถไฟใต้ดินนั้นไม่ได้ถ่ายจากกล้องฟิล์ม แต่ถ่ายจากมือถือไอโฟน 7 เลยไม่อยากเอามาใส่ไว้ในโพสนี้ที่ทุกภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มทั้งสิ้น เลยคิดว่าจะแยกออกไปอีกโพสหนึ่งเลยดีกว่า รอติดตามเรื่องสถานีรถไฟสวยๆ ในมอสโกในโพสต่อๆ ไปแทนนะคะ ถัดจากทัวร์รถไฟใต้ดินไปต่อกันที่ตลาด Izmailovsky market ที่เค้าว่ากันว่าเหมาะสำหรับการซื้อของฝาก ซึ่งก็คงจะจริง ถ้าเรามาวันเสาร์-อาทิตย์ที่มีพ่อค้าแม่ค้าเยอะๆ น่ะนะ…
Pentax MX with Fuji color 100
แต่วันที่เรามาดันเป็นวันธรรมดา ถึงจะบอกว่าเป็นวันพุธที่เป็นวันขายส่งน่าจะคนเยอะ แต่ภาพที่เห็นคือตลาดร้างๆ ที่มีหน้าตาเหมือนสวนสนุก เรื่องความสวยงามนั้นเราไม่เถียง แต่ว่าเข้าไปแล้วแทบจะไม่เจอใครสักคนเลยเนี่ยสิ เสียเวลาเดินทางมาก เพราะตลาด Izmailovsky นั้นอยู่ที่สถานี Partizanskaya สายสีน้ำเงินเข้มที่จากเมโทรนั้นต้องเดินไปอีกระยะหนึ่ง กว่าจะถึงตลาดไม่ใช่ใกล้ๆ เลย และเมื่อไม่เจอใครก็ทำให้เราต้องเดินคอตกกลับมาแบบไม่ได้อะไรติดมือ
Arbat Street
Pentax MX with Fuji color 100
จากนั้นเราก็เตรียมตัวเพื่อออกเดินทางอีกครั้ง คืนนี้เราจะไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กกันด้วยรถไฟตู้นอน Red Arrow แสนสวยที่เราได้ทำการจองมาจากเมืองไทยแล้วเรียบร้อย จากการหาข้อมูลบอกว่าไม่ควรจองรถไฟใกล้ๆ วันเดินทาง เพราะราคาจะขึ้น ควรจองอย่างน้อยหนึ่งเดือน หรือ 45 วันก่อนการเดินทางจะได้ราคาที่ดีกว่า
และจากการสอบถามผู้รู้อีกเหมือนกัน ว่าถ้าหากต้องการเดินทางจากมอสโกไปเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จำเป็นไหมที่จะต้องนั่งรถไฟ Red Arrow คำตอบคือไม่จำเป็น รถไฟในรัสเซียนั้นมีให้เลือกมากมาย ทั้งรถไฟความเร็วสูง SAPSAN ที่ใช้เวลาเพียง 4 ชั่วโมง และรถไฟตู้นอนแบบอื่นๆ ล่าสุดเท่าที่หาข้อมูลมา ตอนนี้รัสเซียเพิ่งเปิดตัวรถไฟตู้นอนแบบสองชั้น แต่ที่ Red Arrow เป็นที่นิยมของคนไทยก็เพราะใครๆ ไปก็มารีวิวไว้ ทำให้เราเชื่อกันไปเองว่าต้องนั่ง Red Arrow ถึงจะดีที่สุด
ถึงอย่างนั้นขบวนรถไฟ Red Arrow ก็มีห้องนอนหลายประเภทให้เลือก มีทั้งห้องสุดหรูที่มีห้องน้ำในตัว หรือว่าตู้นอนชั้น 1 เหมาะสำหรับการเดินทางสองคน หรือตู้นอนชั้น 2 ก็ไม่แย่ แต่ก็ต้องไปลุ้นกันว่าจะได้เพื่อนร่วมโบกี้เป็นใคร ที่สำคัญคือตอนที่จองต้องกรอกข้อมูลให้ดี เพราะถ้าบังเอิญกรอกเพศผิด อาจจะโผล่ร่วมตู้นอนกับเพื่อนต่างเพศอีก 3 คนก็เป็นได้ ซึ่งจากการหาข้อมูลจากกระทู้ในพันทิปก็พบว่าเคยมีคนประสบปัญหานี้มาแล้ว!
Bye bye Moscow, See you St. Petersburg!