แทบไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อของ Breakfast at Tiffany’s ภาพยนตร์แจ้งเกิด Audrey Hepburn ในบทบาทของ Holly Golightly สาวน้อยที่หลงใหลในเครื่องประดับของ Tiffany & Co. อันเป็นที่มาของฉากในตำนานที่เธอไปยืนดื่มกาแฟและเคี้ยวขนมปังอยู่หน้าร้าน และถึงแม้จะผ่านเวลามานานกว่า 50 ปี ทุกวันนี้ยังคงมีแฟนๆ ไปถ่ายรูปและทำท่าทางตามเธออยู่เสมอ
ข่าวดีก็คือ ปลายปี 2017 ที่ผ่านมา บริเวณชั้นล่างของร้าน Tiffany & Co. สาขาใหญ่ที่นิวยอร์คได้เปิดบริการให้ลูกค้าเข้าไปรับประทานอาหารเช้าได้จริงๆ โดยให้ชื่อสถานที่นี้ว่า Blue Café ที่ซึ่งทุกอย่างถูกเนรมิตขึ้นด้วยสีฟ้าประจำตัวของ Tiffany’s หรือที่เรียกว่า Tiffany Blue นั่นเอง
Tiffany Blue คือเฉดสีฟ้าเฉพาะตัวของ Tiffany & Co. โดยมีการกำหนดค่าสี Pantone อยู่ที่หมายเลข 1837 ซึ่งตรงกับปีที่ Tiffany & Co. ก่อตั้งขึ้น สีฟ้านี้ได้ถูกนำไปใช้ในทุกสิ่งและทุกสื่อที่ Tiffany’s นำเสนอสู่สายตาชาวโลก ทั้งปรากฏอยู่บนบรรจุภัณฑ์ Blue Box กล่องใส่เครื่องประดับ และหนังสือ Blue Book ที่ในอดีตเป็น Catalog รวบรวมภาพสินค้าที่จะถูกส่งไปตามบ้านเรือนในยุคแรกของการขายของทางไปรษณีย์
ทุกวันนี้ Tiffany & Co. เป็นแบรนด์เครื่องประดับยักษ์ใหญ่ที่มีอายุกว่า 180 ปี โดย แหวนหมั้น (Engagement Ring) ยังคงเป็นสินค้าขายดีตลอดกาลเสมอ อะไรคือสิ่งที่ทำให้แบรนด์ไม่เคยเสื่อมความนิยมแม้ในช่วงที่อัตราการแต่งงานลดน้อยลงมากทั่วโลก
Tiffany & Co. (อ่านว่า ทิฟฟานี่ แอนด์ โค) โดยมีคำเขียนย่อว่า Tiffany หรือ Tiffany’s ก่อตั้งโดย Charles Lewis Tiffany และ John B. Young ในยุคแรกเริ่มนั้น Tiffany’s ได้กำหนดมาตรฐานหลายอย่างให้กับวงการเครื่องประดับและอัญมณีของสหรัฐอเมริกา อย่างเช่นการนำเข้าเนื้อเงิน 925 หรือที่เรียกกันว่า Sterling Silver เป็นเจ้าแรก จนต่อมามาตรฐานนี้ได้รับการรับรองจากรัฐบาลสหรัฐฯ
Tiffany’s เริ่มมีชื่อเสียงเกี่ยวกับเพชรและอัญมณี เมื่อ Charles Lewis Tiffany ซื้อเพชรสีเหลืองขนาดใหญ่จากเหมืองในแอฟริกาใต้ โดยนำมาเจียระไนผ่านช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญภายใต้การดูแลของนักอัญมณีศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เปรียบเสมือนการเปิดตัวแบรนด์และนำเสนอความเชี่ยวชาญด้านเพชรและอัญมณีของ Tiffany’s จนทำให้เพชรสีเหลืองที่ภายหลังได้รับการตั้งชื่อว่า Tiffany Diamond นี้กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ Tiffany’s และเป็นที่ต้องการอย่างมากในช่วงนั้น
ถึงอย่างนั้น Tiffany’s ก็ไม่ได้นำ Tiffany Diamond มาแบ่งขาย หากแต่นำเสนอเพชรสีเหลืองในรูปแบบเครื่องประดับต่างๆ มากมาย ทั้งแหวนเพชร จี้ และต่างหู พร้อมกันนี้ยังรังสรรค์เครื่องประดับเพชรในสีสันอื่นๆ หรือที่เรียกว่า Fancy Color Diamond ขึ้นมาจนกลายเป็นที่นิยมไปด้วยในเวลาเดียวกัน
แต่เครื่องประดับที่ทำให้ Tiffany & Co. มีชื่อเสียงมากที่สุดคือแหวนหมั้น หนึ่งในสัญลักษณ์แทนความในใจระหว่างคู่รัก เรียกได้ว่า Tiffany & Co. เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่สาวๆ ทั่วโลกใฝ่ฝันเมื่อถูกขอแต่งงาน โดยเฉพาะสาวๆ ทางฝั่งอเมริกา เครื่องประดับที่ถูกบรรจุมาในกล่อง Blue Box นั้นทำให้พวกเธอใจเต้นแรงได้เสมอ
นอกจากนี้ Tiffany & Co. เป็นเจ้าของนวัตกรรมการฝังอย่างหนึ่งที่ทำให้แหวนหมั้นของพวกเขาโดดเด่นและเป็นที่ต้องการอย่างมาก ในอดีตเพชรที่อยู่บนแหวนหมั้นมักถูกฝังด้วยวิธีการที่เรียกว่าฝังหุ้ม (Bezel Setting) ซึ่งจะปรากฏเพชรให้เห็นเพียงแค่ด้านบนเท่านั้น แต่แหวนหมั้นของ Tiffany’s นั้นถูกนำเสนอด้วยวิธีการฝังหนามเตย (Prong Setting) ซึ่งทำให้มองเห็นเพชรได้เกือบทั้งรูปทรง และยังทำให้เกิดช่องว่างที่ปล่อยให้แสงธรรมชาติลอดผ่าน เป็นการสร้างประกายให้เพชรดูงดงามมากขึ้น โดยแหวนหมั้นของ Tiffany’s นั้นประกอบด้วยหนามเตย 6 ง่าม โดยมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Tiffany Setting
แต่เคล็ดลับที่ทำให้ Tiffany & Co. ยังคงขายแหวนหมั้นได้แม้อยู่ในภาวะขาลงของการแต่งงานนั้นเป็นเพราะ Tiffany’s ไม่เคยกลัวการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ทำให้ Tiffany & Co. ยังคงยืดหยัดมากว่า 180 ปีคือการปรับเปลี่ยนตัวตนไปตามเวลา โดยการเป็นแบรนด์เครื่องประดับแรกที่หันมาทำแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานให้กับคู่รักเพศเดียวกันโดยเฉพาะ ซึ่งมีการถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักผ่านวีดีโอโฆษณาอย่างจริงจังอีกด้วย
นอกจากนี้ Tiffany’s ยังมีการใช้ Social Media อย่างมีชาญฉลาดและน่าสนใจ ไหนจะ application ที่ช่วยให้ลูกค้าได้ทดลองใส่แหวนหมั้นผ่านหน้าจอมือถือ ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่มีอายุเกือบ 200 ปีมีความสดใหม่อยู่เสมอ เห็นได้ชัดจากโฆษณาตัวล่าสุดที่เลือกเอา Elle Fanning สาวน้อยที่มีความสดใสมาเป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง โดยเป็นการเล่าประวัติของแบรนด์ ตั้งแต่ยุคคลาสสิคที่ Breakfast at Tiffany’s โด่งดัง จนถึงปัจจุบันที่วัฒนธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลงทำให้นิวยอร์คนั้นเป็นมหานครที่มีเสน่ห์ที่สุดเสมอ
sources
One Comment Add yours