The revival of the rival, Schiaparelli is back!

ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เป็นยุคที่เหล่าห้องเสื้อสตรีล้วนมีแต่นักออกแบบเพศชาย และแบรนด์คุ้นหูทั้งหลายในปัจจุบันนั้นมาจากชื่อหรือสกุลของผู้ก่อตั้ง ถึงอย่างนั้นก็มีนักออกแบบหญิงถึง 2 คนเป็นที่ยอมรับในวงกว้างและได้สร้างตำนานประดับวงการแฟชั่น ไม่ว่าจะด้วยเรื่องผลงานการออกแบบ เทคนิคใหม่ๆ ที่ถูกคิดค้นและปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรก รวมถึงเรื่องเล่าส่วนตัวของทั้งคู่ที่หลายคนรู้ดีว่าไม่ลงรอย เรียกได้ว่าถ้า Gabrielle ‘Coco’ Chanel คือตัวแทนจากฝรั่งเศส อิตาลีก็มี Elsa Schiaparelli ที่โด่งดังไม่แพ้กัน

Coco Chanel / Elsa Schiaparelli

ปัจจุบันชื่อเสียงของแบรนด์ Chanel นั้นเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แม้ไม่ใช่คนในวงการแฟชั่นก็ต้องเคยได้ยินชื่อของเธอ ด้วยผลงาน masterpiece หลายๆ ชิ้น ทั้งการใช้ผ้าทวีต (tweed) จนกลายเป็นลายเซ็นเฉพาะ และกระเป๋าสะพาย Chanel 2.55 ใบโปรดของสาวๆ ที่กลายเป็นตำนาน It bag สไตล์ของ Chanel อาจอธิบายได้ด้วยคำว่า Classic and Comfortable ในขณะที่คู่แข่งของเธอ Schiaparelli คือสนามประลองไอเดียที่ได้รับอิทธิพลจากศิลปะ Surrealism



Coco Chanel / Elsa Schiaparelli

ห้องเสื้อ Haute Couture ของ Coco Chanel และ Elsa Schiaparelli ถือกำเนิดในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ปัจจุบันหลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อ Schiaparelli แต่หากย้อนกลับไปแบรนด์ของเธอมีชื่อเสียงในระดับเดียวกับ Chanel แถมในประวัติศาสตร์แฟชั่นยังยกให้ทั้งสองเป็นคู่กัดตลอดกาล จากคำกล่าวของ Coco Chanel ที่ไม่ยอมเรียกชื่อ Elsa Schiaparelli แต่กลับเรียกว่า “ศิลปินอิตาเลียนคนนั้นที่ทำเสื้อผ้า”

แบรนด์สัญชาติอิตาเลียนที่ออกเสียงยากว่า ‘สะเคียปาเรลลิ’ นี้เกิดขึ้นในปี 1927 ในยุคที่ปารีสคือศูนย์กลางเมืองแฟชั่น ‘เอลซ่า สะเคียปาเรลลิ’ ถ่ายทอดไอเดียสดใหม่ผ่านเสื้อผ้าของเธอ ทำให้ชาวปารีเซียงหันมาสนใจสไตล์ที่แปลกใหม่นี้ ‘สเคียป’ (ชื่อที่เพื่อนและครอบครัวเรียกเธอ) เป็นผู้ริเริ่มสิ่งใหม่ให้กับวงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ซิปอย่างเปิดเผย ออกแบบกระดุมเฉพาะตัวเป็นครั้งแรก การกำหนดธีมหลักให้กับคอลเลคชั่น ตลอดจนการซ่อนเซอร์ไพรส์ต่างๆ ไว้ในเสื้อผ้า ที่สำคัญเธอคือผู้ให้กำเนิดคำเรียกสีชมพู Shocking Pink จนกลายเป็นสีประจำตัวเธอและแบรนด์ไปโดยปริยาย

อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้สะเคียปาเรลลิเป็นที่จดจำและแตกต่างจากแบรนด์อื่นคือ ‘เครื่องประดับ’ แนว Surrealist Accessories หรือที่เรียกว่า Miniature Accessories โดยสเคียปได้รับอิทธิพลและแรงบันดาลใจจากศิลปะลัทธิเหนือจริง เธอมีเพื่อนศิลปินที่มีชื่อเสียงหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Salvador Dali หรือ Jean Cocteau ที่ต่างเข้ามามีบทบาทในวิธีคิดและลงเอยด้วยการผลิตผลงานร่วมกัน

Salvador Dali (ซัลวาดอร์ ดาลี) ศิลปินชาวสเปนผู้สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับสเคียปมากมาย จากความใกล้ชิดสนิทสนมของทั้งคู่ก่อให้เกิดการข้ามสายงานระหว่างศิลปะและแฟชั่นในยุค 30s ซึ่งเป็นช่วงรุ่งเรืองของแบรนด์ โดยผลงานชิ้นแรกของทั้งสองคือตลับแป้งที่มาในรูปแบบแป้นหมุนโทรศัพท์บ้าน

ผลงานถัดมาถือเป็นหนึ่งในตำนานของวงการแฟชั่น ‘Lobster dress’ หรือชุดล็อบสเตอร์ที่ได้แรงบันดาลใจจากผลงาน Lobster Telephone ของดาลี ซึ่งเหตุผลที่ทำให้ชุดนี้โด่งดังเป็นพิเศษ เนื่องจากถูกสวมใส่โดยหนึ่งในลูกค้าคนสำคัญของแบรนด์ สตรีผู้ทรงอิทธิพลในโลกแฟชั่นยุค 30s วอลลิส ซิมป์สัน หรือดัสเชสแห่งวินด์เซอร์

และอีกชุดที่แสดงความสามารถในการสร้างสรรค์เสื้อผ้าของสเคียป ‘Tear dress’ ได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน้ำมัน Three Young Surrealist Women Holding in their Arms the Skins of an Orchestra ของดาลีในปี 1936 ซึ่งใช้เทคนิคซ้อนผ้าและทำพื้นผิวให้สามารถเคลื่อนไหวได้ เพื่อถ่ายทอดอารมณ์ให้ใกล้เคียงกับภาพวาดของดาลีมากที่สุด

จากผลงานที่ปรากฏ เอลซ่า สะเคียปาเรลลิ ได้รับการยอมรับว่าเป็น The first surrealist designer หรือนักออกแบบแนวเหนือจริงคนแรกของโลก ผู้สามารถสร้างสรรค์งานศิลปะที่สวมใส่ได้จริงบนร่างกาย ด้วยแนวคิดแปลกใหม่และฝีมือการออกแบบที่ยากจะลอกเลียน

“She slapped Paris. She smacked it. She tortured it. She bewitched it. And it fell madly in love with her”

– Yves Saint Laurent –

แต่ยุคทองของเธอก็ต้องสะดุดลงเมื่อโลกเข้าสู่ช่วงสงครามตอนต้นยุค 40s ห้องเสื้อ Haute Couture ทั้งหลายในปารีสจำเป็นต้องปิดหน้าร้านและหยุดกิจการไว้ชั่วคราว สเคียปลี้ภัยไปยังมหานครนิวยอร์ค จนเมื่อสงครามจบลง เธอย้อนกลับมาที่ปารีสและพบว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปราวกับสงครามได้ทำลายแฟชั่นยุคก่อนหน้าลงด้วย สไตล์ของเธอเสื่อมความนิยมในช่วงเวลาที่ใครๆ ต่างชื่นชม ‘New Look’ ของ Christian Dior

สะเคียปาเรลลิยังคงกัดฟันสู้กับแบรนด์ต่อ แต่แล้วก็ต้องจำนนต่อคลื่นลูกใหม่และความนิยมที่ต่างไปจากเดิม สเคียปปิดฉากห้องเสื้อ Haute Couture ของตัวเองในปี 1954 แต่ยังคงรับงานออกแบบอยู่บ้าง ซึ่งในปีเดียวกันนี้เป็นช่วงเวลาที่โคโค่ ชาแนลหวนคืนปารีสและกลับมาทวงบัลลังก์ ซึ่งผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น วันนี้ Chanel โด่งดังเป็นท็อปแบรนด์ ในขณะที่ชื่อของ Schiaparelli ค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลา เหลือไว้เพียงแต่ตำนานนักออกแบบหญิงที่ครั้งหนึ่งคือคู่แข่งผู้ทัดเทียมโคโค่ ชาแนล

ตลอดระยะเวลาที่ห้องเสื้อสะเคียปาเรลลิอยู่ในความดูแลของสเคียป เธอได้รังสรรค์สิ่งใหม่มากมาย และได้ทำงานร่วมกับนักออกแบบหลายคนที่ภายหลังมีชื่อเสียงมากกว่าแบรนด์เธอเสียอีก หนึ่งในนั้นคือนักแบบเจ้าของแบรนด์ดัง Hubert de Givenchy (อูแบร์ เดอ จีวองชี่) ผู้ร่วมงานกับสะเคียปาเรลลิระหว่างปี 1947-1951 ส่วนอีกคนคือนักออกแบบเครื่องประดับผู้เริ่มต้นอาชีพด้วยการออกแบบกระดุมให้กับสะเคียปาเรลลิ Jean Schlumberger (ฌอง ชลุมแบร์แกร์) ซึ่งในภายหลังโด่งดังสุดขีดจากผลงานที่ Tiffany & Co.

Hubert de Givenchy (1927-2018)
Jean Schlumberger (1907-1987)

ในช่วงต้น 2010s นั้น ต้นสังกัดเจ้าของลิขสิทธิ์ Schiaparelli พยายามที่จะนำแบรนด์กลับมาปัดฝุ่นใหม่แต่ก็ไม่เป็นที่รู้จักเท่าที่ควร ชื่อสะเคียปาเรลลิยังคงเป็นแบรนด์ออกเสียงยากและไม่โดนใจลูกค้ายุค Millennial จนกระทั่งการมาถึงของ Artistic Director คนปัจจุบันในปี 2019 นักออกแบบสัญชาติอเมริกันคนแรกของแบรนด์ Daniel Roseberry

แดเนียล โรสแบร์รี่ศึกษาประวัติศาสตร์แบรนด์และถ่ายทอดเสน่ห์ตามแบบฉบับสะเคียปาเรลลิในบริบทปัจจุบัน จากแรงบันดาลใจและกลิ่นอายศิลปะเหนือจริงของดาลี สู่รูปร่างรูปทรงของเสื้อผ้าที่สุดโต่ง การกลับมาของสีชมพู Shocking Pink ไปจนถึงการออกแบบเครื่องประดับชิ้นโตที่ไม่ได้สวมใส่บนพื้นที่ร่างกายปกติ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เขาทำเพื่อสดุดีความอัจฉริยะของสเคียป และผลลัพธ์ของมันถูกใจคนในยุค Digital เป็นอย่างมาก

Schiaparelli Haute Couture Spring-Summer 2020

Schiaparelli is the incredibly magical world where everything feels possible.

– Daniel Roseberry –

ถึงแม้ตัวโรสแบร์รี่จะไม่เคยออกแบบ Couture Collection มาก่อน แต่เขาใช้ประสบการณ์ 11 ปีที่ Thom Browne และการย้ายถิ่นฐานจากนิวยอร์คไปปักหลักที่ปารีส พบเจอคนรอบตัวที่พูดกันคนละภาษา โรสแบร์รี่ใช้ความตั้งใจและความเคารพที่มาที่ไปของแบรนด์จนเอาชนะใจเพื่อนร่วมงานชาวฝรั่งเศสได้ในที่สุด โดยเขาเปรียบสะเคียปาเรลลิเป็นเสมือนแบรนด์ที่สร้างแรงบันดาลใจและทำให้ทุกสิ่งมีความเป็นไปได้เสมอ

Schiaparelli Haute Couture Spring-Summer 2021

และจากสัปดาห์ Haute Couture ที่ผ่านมา โชว์ของ Schiaparelli โดยฝีมือของแดเนียล โรสแบร์รี่นั้น ว่าด้วยการตีความความแข็งแรงผู้หญิงยุคใหม่ ความมั่นใจในตัวเองที่แสดงออกผ่านการแต่งตัว ถูกถ่ายทอดผ่านเส้นสายของเสื้อผ้ารวมถึงเครื่องประดับสะดุดตา สร้างปรากฏการณ์และเป็นที่พูดถึงอย่างแพร่หลาย ชนิดที่ว่าถ้าเอลซ่า สะเคียปาเรลลิมองลงมาคงจะไม่ผิดหวัง

โดยตอกย้ำความสำเร็จด้วยเหล่าเซเลบริตี้ที่เลือกใส่สะเคียปาเรลลิในวันสำคัญเพราะเชื่อใจในความโดดเด่นและแตกต่างที่แบรนด์นำเสนอตลอดมา ไม่ว่าจะเป็น Kim Kardashian ในชุดเกาะอกสีเขียวจากคอลเลคชั่นกูตูร์ล่าสุดในปาร์ตี้วันคริสต์มาส

และ Lady Gaga ในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ที่เลือกสวมชุด custom made และเครื่องประดับจากสะเคียปาเรลลิขึ้นร้องเพลงชาติสหรัฐอเมริกา

“As an American living in Paris, this ensemble is a love letter to the country I miss so dearly and to a performer whose artistry I have so long admired. Maison Schiaparelli is honored to have this chance to dress the iconic Lady Gaga on this historic Inauguration Day. God Bless Lady Gaga and God Bless America.”

– Daniel Roseberry –

จึงทำให้ใครหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่าทิศทางในอนาคตของแบรนด์นั้นเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เพราะมีภาพลักษณ์โดดเด่น เอกลักษณ์ชัดเจน แถมด้วยเรื่องราวที่เป็นตำนาน สามารถหยิบจับมาเล่าใหม่ได้เสมอ แบรนด์สะเคียปาเรลลิที่ในวันนี้มีอายุเกือบร้อยปีได้กลับมาอยู่ในสปอตไลท์อีกครั้ง และพร้อมที่จะเซอร์ไพรส์คนดูต่อไป ดังเช่นที่โรสแบร์รี่ Artistic Director คนปัจจุบันได้กล่าวไว้ว่าความสำเร็จในวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น

“Old question of what happens when all your dreams come true, and the only thing I know what to do is to make new dreams. So yeah, we’re just getting started.”

– Daniel Roseberry –

sources:

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.